โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ
เมนูชมรม

█ █ ₤ove ωrite Ñovel ชมรมเพื่อคนรักการเขียน █ █

ชื่อชมรม█ █ ₤ove ωrite Ñovel ชมรมเพื่อคนรักการเขียน █ █
ผู้ก่อตั้งPreawhaha
ก่อตั้งเมื่อ3 พฤศจิกายน 2012
ระดับชมรม1
รายละเอียดเพื่อคนเขียนนิยายโดยเฉพาะ ทุกท่านที่ชอบที่จะเขียนไม่ว่านิยายหรือฟิคก็สมัครได้ หรือแม้แต่ชอบอ่านอย่างเดียวก็มาสมัครได้เพื่อที่จะอ่านนิยายหลากสไตล์หลากอารมณ์จากเพื่อนๆในชมรมแห่งนี้ :)
จำนวนสมาชิก18
จำนวนสมาชิก

18

เข้าได้ทุกคน
ตั้งกระทู้ใหม่
A
A
A
A

senmeemee
#21
04-11-2012 - 15:15:47

#21 senmeemee  [ 04-11-2012 - 15:15:47 ]







#17 เราสอนแล้วนะจ้ะ :D
ส่องแล้วเม้นต์ จุ้บๆ :))

ไม่เข้าใจถามมม '' อย่าทำตัวงง -3- #ถูกเตะ


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2012-11-04 15:16:20


เข้ามาอัพตัสว่า เลิกเล่นแล้วเด้อ555555
TaowLoveEve
#22
04-11-2012 - 17:25:37

#22 TaowLoveEve  [ 04-11-2012 - 17:25:37 ]




ทำได้แล้วขอบคุณค่า



SEULRENE IS REAL ʕ •ᴥ•ʔ
เอ็ดเวิร์ด
#23
เอ็ดเวิร์ด
05-11-2012 - 16:53:21

#23 เอ็ดเวิร์ด  [ 05-11-2012 - 16:53:21 ]





สร้างพล็อตเรื่องทั้งที..ต้องมีอะไรบ้าง?

สิ่งแรกที่ผุดขึ้นในความคิดของนักเขียนทุกคน ก่อนเริ่มลงมือจรดปลายปากกาคือ พล็อตเรื่อง เมื่อก้อนความคิดที่ว่าตกตะกอนมากพอ เราจึงเริ่มลงมือขยายออกมาเป็นเรื่องราว แต่พี่เลิฟมั่นใจว่ามีน้องๆ นักเขียน Dek-D.com หลายคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ไปต่อไม่ถูก สาเหตุเพราะวางพล็อตเรื่องไว้ไม่สมบูรณ์หรือครอบคลุมมากพอ บางครั้งล่องออกทะเลไปไกลจนเลี้ยวกลับลำบากก็มี

ปัญหาสำคัญที่หลายคนยังไม่นึกถึงอย่างจริงจังคือ ตกลงว่าพล็อตเรื่องจำเป็นต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้างกันแน่ แล้วแบบไหนถึงจะเรียกว่าพล็อตเรื่อง?ที่เขียนๆ มาทั้งหมด นี่ถือว่าเป็นพล็อตเรื่องที่ถูกต้องหรือเปล่า? เพราะฉะนั้นวันนี้พี่เลิฟเลยสรุปองค์ประกอบพล็อตเรื่องที่ดี ซึ่งน้องๆ นักเขียน Dek-D.com ควรต้องมีมาฝากกัน ตามมาดูเลยจ้า ^^
1. เบ็ดเกี่ยว

เบ็ดเกี่ยวในที่นี้ หมายถึงการสร้างสถานการณ์ หรือการเขียนเรื่องราวที่สร้างความประหลาดใจรวมไปถึงความประทับใจให้เกิดต่อผู้อ่าน โดยสร้างความสงสัย ความอยากรู้อยากเห็น จนผู้อ่านต้องรีบเปิดหน้าถัดไปเพื่อติดตามต่อ

2. ตัวละคร

ต้องสร้างตัวละครทุกตัวให้ดูสมจริง และน่าเชื่อถือ มีที่มาที่ไป ไม่ว่าจะเป็นพระเอก นางเอก ตัวร้าย หรือตัวประกอบอื่นๆ เพื่อทำให้ผู้อ่านรู้สึกอยากติดตาม และใกล้ชิดกับตัวละครทุกตัวในเรื่องอย่างจดจ่อ ที่สำคัญตัวละครจำเป็นต้องมีข้อดี และข้อด้อยในแบบฉบับของตัวเอง เพื่อสร้างให้ดูมีมิติและสมจริงมากขึ้น

3. ความขัดแย้ง

ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในเรื่อง มีความจำเป็นมากที่ต้องสร้างขึ้นอย่างสมเหตุสมผล และมีมากเพียงพอเพื่อทำให้เนื้อเรื่องไม่น่าเบื่อ

เมื่อน้องๆ นักเขียน Dek-D.com สร้างความผูกพันระหว่างตัวละครและผู้อ่านได้แล้ว จากนั้นก็ต้องเริ่มสร้างปมความขัดแย้งเข้าไปเรื่อยๆ เพื่อดึงความสนใจของผู้อ่านให้มีเพิ่มมากขึ้น และอยากติดตามต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ ซึ่งสถานการณ์ต่างๆ ที่สร้างขึ้นจะถือเป็นการแสดงความเป็นตัวตนและการพัฒนาตัวละคร โดยสามารถนำไปต่อยอดสร้างจุดขัดแย้งเพิ่มขึ้นได้อีก

4. พล็อตย่อย

นอกจากพล็อตหลักที่ตัวละครต้องพบเจอ เพื่อดำเนินไปให้ถึงเป้าหมายแล้ว พล็อตย่อยคือสิ่งสำคัญที่จะแสดงความเป็นตัวตน และสภาพแวดล้อมที่ตัวละครต้องเผชิญ และต้องต้องคอยฝ่าฟัน แก้ปัญหาต่างๆ ในชีวิตระหว่างเดินทางไปสู่เป้าหมาย ทั้งหน้าที่การงาน ความสัมพันธ์ และอื่นๆ ทั้งเป็นเรื่องในแง่ดี และแง่ร้าย เพื่อสร้างความน่าดึงดูดแก่นักอ่าน

5. จุดสำคัญสูงสุดของเรื่อง

..หรือที่พูดติดปากกันว่า ไคลแมกซ์ ซึ่งข้อสงสัย ความขัดแย้งทุกอย่างของตัวละครและเรื่องราวทั้งหมดจะถูกตัดสินกันที่จุดจุดนี้ ถึงแม้หลายๆ คนจะคิดไว้อยู่แล้วว่าต้องการจะเขียนไคลแมกซ์แบบไหน แต่บางครั้งกลับเขียนถึงตรงนี้ไม่ถูก ไม่ก็ไม่ได้ดั่งใจสักที เพราะฉะนั้นก่อนเนื้อเรื่องจะดำเนินมาถึงจุดสูงสุด จะต้องเขียนปูเนื้อหาเพื่อโยงเข้าหาไคลแมกซ์ไว้ให้ดี เพื่อให้เนื้อเรื่องคลี่คลายอย่างสมเหตุสมผล

6. ผลสุดท้าย

หลังเรื่องราวทั้งหมดคลี่คลายจากไคล์แมกซ์แล้ว ส่วนต่อมาที่สำคัญไม่แพ้กัน คือตอนจบของเรื่อง ซึ่งการเขียนตอนจบไม่ได้หมายความว่าต้องจบห้วนๆ ทันที แต่ต้องกล่าวต่อว่าหลังจากคลี่คลายทุกอย่าง ตัวละครกลับไปใช้ชีวิตอย่างไร เพราะตอนจบยังสามารถเขียนทิ้งท้ายเพื่อสร้างความประทับใจ และความประหลาดให้ให้เกิดกับผู้อ่านได้อีก ฉะนั้นการเขียนตอนจบให้เป็นที่น่าจดจำจะถือเป็นการประสบความสำเร็จที่แท้จริง



เพราะพล็อตเรื่องเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้นิยายออกมาเป็นรูปเป็นร่างในขั้นแรก ฉะนั้นน้องๆ นักเขียน Dek-D.com ควรจะเสียเวลาสักนิดในการวางแผนสร้างพล็อตให้มีตาม 6 ข้อด้านบนที่พี่เลิฟเอามาแนะนำ อาจจะเป็นการยากไปสักนิด แต่รับรองว่าตอนลงมือเขียนน้องๆ จะเขียนได้ไหลลื่น และไม่ผิดจุดประสงค์จากที่คิดไว้ตั้งแต่แรกแน่นอน

C.Dek-d

Preawhaha
MANAMiiz


เขาไม่รักเราแล้วปล่อยเขาไป(●△●)
TaowLoveEve
#24
05-11-2012 - 17:03:19

#24 TaowLoveEve  [ 05-11-2012 - 17:03:19 ]




ฝากนิยายหน่อยงับแนวแฟนตาซี

http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=875594



SEULRENE IS REAL ʕ •ᴥ•ʔ
senmeemee
#25
05-11-2012 - 18:06:38

#25 senmeemee  [ 05-11-2012 - 18:06:38 ]







อยากจะบอกว่า..
ใครแต่งบทความในเด็กดีสวยๆเป็นก็เอามาแบ่งปันหน่อยนะ เงิบ ''
แบบว่าหน้าฟิคกากมาก -[]-
#เกี่ยวไหม -/-
##ข้ามเรปนี้ไป
###แพรวจังเค้าพิมพ์แบบนี้ผิดไหม ไม่เป็นไรผิดลบ -//-



เข้ามาอัพตัสว่า เลิกเล่นแล้วเด้อ555555
เอ็ดเวิร์ด
#26
เอ็ดเวิร์ด
05-11-2012 - 18:57:55

#26 เอ็ดเวิร์ด  [ 05-11-2012 - 18:57:55 ]





แปะนิยายนะไดสิเคอะ FicYReborn
http://writer.dek-d.com/mark-eve/writer/view.php?id=876911]http://writer.dek-d.com/mark-eve/writer/view.php?id=876911

มีปัญญาทำแค่นี้

แถม


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2012-11-05 18:58:36


เขาไม่รักเราแล้วปล่อยเขาไป(●△●)
Oum_BoJae
#27
05-11-2012 - 19:48:28

#27 Oum_BoJae  [ 05-11-2012 - 19:48:28 ]







พี่มาสมัครด้วยย
แต่พี่เขียน fiction อ่ะ


สมัครได้ใช่ไหมมมม

                  ID: Oum_BoJae
                  นามปากกา: Oum_BoJae
                  สมาชิกหมายเลข: 9 มั้ง? ฮ่าๆๆๆ
                  รู้สึกยังไงกับชมรมนี้: เราชอบน้าาาา พี่ชอบอ่าน ชอบเขียน ดีจังที่เปิดคลับนี้ๆๆๆ
                  รูปภาพที่จะทำบัตร: รอแป็บได้ไหมอ่า ;_; สักครู่น้าา

Preawhaha


กลับมาเล่นแว้วววว
Preawhaha
#28
05-11-2012 - 20:42:15

#28 Preawhaha  [ 05-11-2012 - 20:42:15 ]





๙ วิธีแก้ไขเมื่อเกิดอาการ เขียนไม่ออก





๑. ค้นหา ปัญหา จริง ๆ ที่ทำให้คุณเขียนไม่ออก

ว่ามันคืออะไร จดเป็นข้อ ๆ ลงไป






๒. หากปัญหาของคุณอยู่ที่พล็อตหรือสิ่งในเรื่อง ตรงไหนที่มันทำให้ติดขัดเขียนต่อไปไม่ได้ต้องกล้าที่จะตัดทิ้งไปไม่ว่าจะเขียนมันได้หลายสิบหน้าแล้วก็ตาม ก็มันไม่เวิร์คก็อย่าเอาไว้เลย





๓. หากเป็นเพราะคุณไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรต่อไปดี ก็จงไปอ่านหนังสือในแนวที่คุณชอบ หรือค้นคว้า เพื่อเพิ่มเติมสิ่งที่คุณจะเล่าในเรื่องต่อไป





๔. จำไว้ว่า คุณไม่จำเป็นต้องเขียนเรียงไปตามลำดับเริ่มเรื่อง กลางเรื่องจบเรื่อง คิดตอนไหนได้ ก็ให้เขียนตรงนั้นไปก่อน

จะเขียนจากหลังมาหน้ายังได้เลย









๕. เลือกหัวข้อสักเรื่อง หรือ สักประโยค แล้วก็เขียนแบบ Free writing เลือกคำหรือไอเดียที่คิดได้สักอย่าง แล้วเขียนเรื่องรอบ ๆ ตัวมัน วิธีนี้ส่วนมากจะทำให้เกิดไอเดียใหม่ ๆ ขึ้นมา





๖. หากเป็นเพราะรู้สึกว่า ไม่มีอารมณ์ ก็ลองเปลี่ยนสถานที่ เวลา เปลี่ยนเครื่องมือในการเขียน จากเขียนลงเครื่องคอมฯ ก็เขียนลงสมุด เปลี่ยนสีหมึก หรือสร้างบรรยากาศในการเขียนเช่นเพิ่มเสียงเพลง แต่งตัวให้สบาย ๆ ฯลฯ




๗. หากเพราะรู้สึกเหนื่อย ก็จง หยุดพักสัก ๕- ๑๐ นาที ดื่มกาแฟ คุยกับเพื่อน อ่านหนังสือขำขัน ออกกำลังกาย ไปเดินเล่น วิ่งเล่น อาบน้ำอุ่น ฯลฯ




๘. ทิ้งเอาไว้สักสัปดาห์ แล้วกลับมาลองอ่านในมุมมองใหม่อ่าน

ซ้ำ ๆ และจดไอเดียที่ได้ในแต่ละครั้ง

แล้วนำมาพิจารณาเพื่อแต่งเติมเข้าไปใหม่





๙. ระหว่างนี้อย่าได้หยุดเขียน จงเขียนงานอื่นแทนไปก่อน

และต้องต้องเชื่อมั่นว่า ในที่สุด ปัญหานี้จะต้องหมดไปคุณแก้ไขมันได้แน่

เชื่อเถอะ


เรียบเรียงจาก:Dek-d



แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2012-11-06 18:30:47
senmeemee


สวัสดี...มีแมวมั้ย?
senmeemee
#29
05-11-2012 - 20:57:38

#29 senmeemee  [ 05-11-2012 - 20:57:38 ]







^
เป็นบ่อยย -[]-
เดียวมาอ่าน -/-
-----------------------
นั่งจัดใหม่
ติชมหน่อยน้าา ทุกคนเลย //มัดมือชก -/-
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=867708



เข้ามาอัพตัสว่า เลิกเล่นแล้วเด้อ555555
Preawhaha
#30
06-11-2012 - 18:34:33

#30 Preawhaha  [ 06-11-2012 - 18:34:33 ]





ข้อจำกัดไม่ใช่อุปสรรคในการเขียนนิยาย
อย่าให้ "ข้อแม้" เป็นอุปสรรคการเขียนสิ


สิ่งที่เป็นอุปสรรคในการเขียนนิยาย
นอกจากจะเป็นเรื่องของการคิดเรื่องไม่ออก เขียนไม่ได้ดั่งใจแล้ว
มีอยู่สิ่งหนึ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด นั่นก็คือ
"ข้อจำกัดของตัวเอง"



มีนักอยากเขียนอีกหลายคนที่พูดแบบเดียวกันว่า อยากเขียนนิยายจังเลย แต่ไม่มีเวลาเขียน ต้องทำกิจกรรม ต้องเรียนกวดวิชา ต้องทำงานพิเศษ ใกล้สอบแอดมิชชั่น ที่บ้านไม่ชอบให้เขียนนิยาย พิการ และอีกสารพัดเหตุผลที่พยายามทำให้อีกฝ่ายตระหนักว่าตัวเองมีเวลาน้อยเกินกว่าจะเจียดเวลามาเขียนนิยายได้ (ถึงได้เป็นแค่นักอยากเขียน ไม่ใช่นักเขียนสักที)

ก็คงว่าอะไรไม่ได้ หากใครๆ ต้องมีภาระรับผิดชอบที่สำคัญกว่าเขียนนิยายในตอนนี้ ซึ่งก็เห็นด้วยเหมือนกัน แต่มันจะดีกว่ามั้ย หากเราสามารถทำให้ข้อจำกัดของตัวเองลดน้อยลงไปได้ เพียงแค่เราพยายามไม่มองสิ่งเหล่านั้นว่ามันเป็นปัญหาเท่านั้นเอง


ไม่มีเวลาเพราะงานยุ่ง? พี่คิดว่างานที่เราทำคงไม่ถึงกับต้องทำตลอด 24 ชั่วโมงมั้ง (ขนาดเจ้าของร้านเซเว่นยังไม่อยู่เฝ้าร้านตลอดทั้งวันเลย) ถ้าใจรักที่จะเขียนจริงๆ ทำไมไม่ลองติดสมุดโน้ตไว้สักตัวล่ะ ช่วงพักเบรกก็เอามาจดช็อตโน้ตสิ่งที่อยากจะเขียนเก็บไว้ อาจจะไม่ต้องเขียนรวดเดียว เอาเท่าที่พอคิดได้และเวลาเอื้ออำนวยที่สุด พอกลับไปถึงบ้านแล้วเราก็ค่อยคัดลอกออกมาเขียนใส่คอมทีหลังก็ได้เนอะ


ที่บ้านไม่ชอบให้เขียนนิยาย? ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม พี่ขอเสนอแนะสองทางเลือกให้น้อง อย่างแรก เขียนไปเลย ไม่ต้องกลัว แค่ยังไม่ต้องให้คุณพ่อคุณแม่ทราบตอนนี้ (ชีวิตของเรา เราต้องลิขิตด้วยตัวเองสิ) และอีกอย่างซึ่งน่าจะดีกว่า นั่นคือต่อรองกับพวกท่านว่าจะเรียนให้ได้เกรดดีๆ ถ้ายอมให้เขียนนิยาย ลองคุยดีๆ อ้อนๆ หน่อย ท่านคงไม่ใจร้ายกับเราแน่ๆ (แต่รับปากแล้วต้องทำได้จริงๆ นะเอ้อ)


พิการ ร่างกายไม่สมประกอบ? เชื่อหรือไม่ ในโลกนี้ยังมีนักเขียนอีกหลายคนที่แม้จะไม่สมประกอบ แต่ใจก็ยังฮึดสู้ เขียนนิยายจนออกมาเป็นรูปเล่มจนสำเร็จ เช่น "ฌ็อง-โดมินิก โบบี้" เขาเป็นอัมพาตทั้งตัว แต่เขาสามารถสื่อสารกับเลขาส่วนตัวของเขาด้วยการกระพริบตา ทำให้เขาสามารถถ่ายทอดออกมาเป็นตัวหนังสือ ในชื่อ "ชุดประดาน้ำและผีเสื้อ" ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนังสือที่เขียนยากที่สุดในโลก (ก็ต้องแกะตัวหนังสือจากการกระพริบตานี่เนอะ) ขนาดคนขยันแขนขาไม่ได้ ยังมีหนังสือของเขาเองได้ เราเองก็น่าจะทำได้ใช่มั้ยล่ะ




ศึกษาประวัติของผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ คลิกที่นี่


เห็นได้ชัดว่า ข้อจำกัดของตัวเราไม่ใช่อุปสรรคในการเขียนนิยายเลยแม้แต่น้อย มันอยู่ที่ใจเราอยากจะทำจริงๆ หรือเปล่าต่างหาก หากเรามองข้อจำกัดของตัวเองเป็นอุปสรรค มันก็จะเป็นกรอบปิดกั้นไม่ให้ตัวเราได้ริเริ่มอะไรสักอย่าง แต่ถ้าเรามองว่ามันไม่ใช่อุปสรรค เราก็จะสามารถพิชิตงานได้ทุกอย่างเชียวละ ไม่ใช่แค่เขียนนิยายเท่านั้น

เรียบเรียงจาก: Dek-D


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2012-11-06 18:36:06


สวัสดี...มีแมวมั้ย?
pooklab
#31
07-11-2012 - 18:17:54

#31 pooklab  [ 07-11-2012 - 18:17:54 ]





แบบฟอร์ม
ID: pooklab
นามปากกา: Rose apple
สมาชิกหมายเลข: 10
รู้สึกยังไงกับชมรมนี้: โหย ดีใจมากๆเลย นานๆทีจะเจอชมรมเกี่ยวกับนักเขียนสักที >O<
รูปภาพที่จะทำบัตร: ใช้รูปดิสนะคะ

>_________________<






แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2012-11-07 18:32:09
Preawhaha

Preawhaha
#32
07-11-2012 - 19:18:06

#32 Preawhaha  [ 07-11-2012 - 19:18:06 ]





quote : pooklab

แบบฟอร์ม
ID: pooklab
นามปากกา: Rose apple
สมาชิกหมายเลข: 10
รู้สึกยังไงกับชมรมนี้: โหย ดีใจมากๆเลย นานๆทีจะเจอชมรมเกี่ยวกับนักเขียนสักที >O<
รูปภาพที่จะทำบัตร: ใช้รูปดิสนะคะ

>_________________<






อย่าลืมสมัครสมาชิกชมามด้วยนะคะ :]
ไม่งั้นหมายเลขสมาชิกอาจเปลี่ยน



สวัสดี...มีแมวมั้ย?
pooklab
#33
07-11-2012 - 19:30:10

#33 pooklab  [ 07-11-2012 - 19:30:10 ]





quote : Preawhaha

quote : pooklab

แบบฟอร์ม
ID: pooklab
นามปากกา: Rose apple
สมาชิกหมายเลข: 10
รู้สึกยังไงกับชมรมนี้: โหย ดีใจมากๆเลย นานๆทีจะเจอชมรมเกี่ยวกับนักเขียนสักที >O<
รูปภาพที่จะทำบัตร: ใช้รูปดิสนะคะ

>_________________<






อย่าลืมสมัครสมาชิกชมามด้วยนะคะ :]
ไม่งั้นหมายเลขสมาชิกอาจเปลี่ยน




=[]=!! เกือบลืมเลย ขอบคุณนะคะที่เตือน >O<


senmeemee
#34
07-11-2012 - 19:43:07

#34 senmeemee  [ 07-11-2012 - 19:43:07 ]







ตัววว ''
มีเคล็ดลับแต่งดราม่าป่ะ ?
แต่งไม่ขึ้นสักที -[]-



เข้ามาอัพตัสว่า เลิกเล่นแล้วเด้อ555555
Preawhaha
#35
07-11-2012 - 20:14:14

#35 Preawhaha  [ 07-11-2012 - 20:14:14 ]





quote : senmeemee

ตัววว ''
มีเคล็ดลับแต่งดราม่าป่ะ ?
แต่งไม่ขึ้นสักที -[]-

มันไม่มีเคล็ดลับอะไรมากหรอก
เดินไปเซ่เว่นแล้วเลือกซื้อมา แบบซองหรือแบบคัพ//หมี่:นั่นมันมาม่า=*=
.
.
.
แค่บิ้วอารมณ์ก่อนเขียน
นั่งดูไททานิค แรงเงา(ใช่รึ=*=)
นั่งฟังเพลงเศร้า...
รับรอง ดราม่า=.,=//ถูกตบ

ดราม่ามันเริ่มจากนี่..มั้ง
1 อุปนิสัยของตัวละคร
2 มีปมขัดแย้ง
3 ความเห็นไม่ตรงกัน ขัดแย้ง
4 พยายามหาทางคลี่คลาย
5 หลายทีไม่หาทางคลี่คลาย แต่กลายเป็นว่า หาบทสรุปที่ได้จากความความขัดแย้งนั้น


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2012-11-07 20:17:21


สวัสดี...มีแมวมั้ย?
senmeemee
#36
07-11-2012 - 20:19:12

#36 senmeemee  [ 07-11-2012 - 20:19:12 ]







^
หมี่ : กินมาม่ากันนน
แพรว : ใช่เวลาไหม -*-
เวลาเค้าแต่งอ่ะ มันก็เป็นอะไรประมาณนั้นแหละ
แต่เวลาบรรยายตัวละครอ่ะ ประมาณว่า
"ฮึก ฮือออ" เลย์ซุกหน้าเข้าไปกับอกแกร่งพร้อมกับปล่อยโฮออกมา
ได้ป่ะ ? ประมาณนี้ ?
เค้าจะแต่งช็อตฟิคเอ็กโซ -/-


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2012-11-07 20:19:34


เข้ามาอัพตัสว่า เลิกเล่นแล้วเด้อ555555
zazagogo
#37
07-11-2012 - 20:23:49

#37 zazagogo  [ 07-11-2012 - 20:23:49 ]






ไม่มานาน .. คลับรุ่งจัง -.-

อ่านไม่ทันเบยย -.-



คิดถึงทุกอย่างเล้ยยยย
Preawhaha
#38
07-11-2012 - 20:30:36

#38 Preawhaha  [ 07-11-2012 - 20:30:36 ]





quote : senmeemee

^
หมี่ : กินมาม่ากันนน
แพรว : ใช่เวลาไหม -*-
เวลาเค้าแต่งอ่ะ มันก็เป็นอะไรประมาณนั้นแหละ
แต่เวลาบรรยายตัวละครอ่ะ ประมาณว่า
"ฮึก ฮือออ" เลย์ซุกหน้าเข้าไปกับอกแกร่งพร้อมกับปล่อยโฮออกมา
ได้ป่ะ ? ประมาณนี้ ?
เค้าจะแต่งช็อตฟิคเอ็กโซ -/-

หิวอยู่กินๆ เฮ้ย!~ใช่เวลาเล่นหรอเรา

แบบนี้เป็นไง-..-
" ฮึก ฮือออ.. " เลย์ค่อยๆซุกหน้าไปแนบกับอกที่แข็งแกร่งก่อนจะปล่อยโฮออกมา
------------------------
ของหมี่โอแล้วล่ะ
พอดีสมองเค้าเรื่องดราม่ามันเยอะToT
v
v
v


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2012-11-07 20:46:39


สวัสดี...มีแมวมั้ย?
senmeemee
#39
07-11-2012 - 20:32:14

#39 senmeemee  [ 07-11-2012 - 20:32:14 ]







^
มาเร็วๆต้มอยู่ -/-
#ยังจะเล่นอยู่เรอะ ? 55555

แจ่มอ่ะะะะ
เค้าไม่มีพรสวรรค์เลย ! T[]T
//นั่งร้องไห้ในมุมมืด



เข้ามาอัพตัสว่า เลิกเล่นแล้วเด้อ555555
Preawhaha
#40
07-11-2012 - 22:41:13

#40 Preawhaha  [ 07-11-2012 - 22:41:13 ]





6 ขั้นตอนสร้างโลกใหม่ให้นิยาย





นิยายแฟนตาซีนอกจากจุดเด่นจะที่เนื้อเรื่องชวนติดตามแล้ว "โลก" อันมีความเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ไม่เหมือนกับเรื่องอื่นๆ แม้จะเป็นธีมเดียวกัน ก็เป็นจุดขายอย่างหนึ่งก็ว่าได้ ซึ่งนักเขียนบางคนอาจจะไม่ได้คิดถึงตรงจุดนั้น คิดว่าก็แค่ใส่ๆไปให้รู้ว่าเป็นโลกแฟนตาซีก็พอแล้ว แต่พี่แบงค์สังเกตมานานแล้วว่า นิยายแฟนตาซีหลายเรื่องที่ติดอันดับเบสต์เซลเลอร์ มักจะมีการสร้าง "โลก" ที่ดูมีมิติ อ่านแล้วรู้สึกเชื่อได้แทบจะสนิทใจเลยว่านั่นคือโลกอีกโลกหนึ่ง ไม่ใช่แค่บอกปากเปล่าเพียง นี่คือโลกแห่งxxxx แต่คนอ่านกลับไม่ได้รู้สึกว่าเป็นอีกโลกหนึ่งเลย เพราะมันดูแบนๆธรรมดาๆนั่นเอง


แค่โปะทรายเป็นปราสาท ก็ยังเรียกไม่ได้เป็นปราสาทจริงๆ


หากกำลังจะสร้างนิยายเรื่องใหม่ขึ้นมาสักเรื่อง (หรือจะรีไรท์ใหม่ก็ว่ากันไป) ควรจะให้ความสำคัญกับโลกของนิยายด้วย เพราะตัวละครไม่สามารถเกิดขึ้นได้โดยปราศจากสภาพแวดล้อมที่หล่อหลอมให้เกิดเป็นตัวเขา โดยเคล็ดลับที่จะทำให้สามารถสร้างโลกนิยายของตัวเองขึ้นมาได้นั้น มีอยู่ 6 ขั้นตอนดังนี้


1 เลือกธีมเรื่องที่ต้องการจะเขียน เช่น ยุคปัจจบัน ยุคเรเนอซองค์ โลกเวทมนตร์ ซามุไร สงครามอวกาศ ป่าดงดิบ สวรรค์นรก ฯลฯ ธีมที่เราเลือกคือโลกที่เราตัดสินใจแน่นอนว่าจะอยู่กันมันไปตลอดจนจบเรื่อง เมื่อเลือกธีมไหนแล้ว ต้องไม่โดดข้ามไปข้ามมานะครับ (ยกเว้นเราตั้งใจจะเขียนแนวเจาะเวลาข้ามมิติ)
[ แพรวเคยร่างพล๊อตไว้เป็นโลกเวทมนตร์แบบยุคกลางต่างมิติค่ะ มีปราสาท เจ้าหญิง เจ้าชาย และเวทย์ โดยโลกนี้มีอยู่จริงๆในคนละมิติและเวลา สมัย กับโลกมนุษย์ ลองเอาไปประยุคได้นะคะ :) ]


2 วาดภาพในหัวว่า โลกในธีมที่เราจะเขียนนั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร ยกตัวอย่างเช่น
◦ โลกเวทมนตร์: ฉากหลังเป็นสไตล์ยุโรปยุคกลาง เป็นช่วงที่เผ่าพันธุ์มังกรสูญหายไปจากโลก มนุษย์ถือสิทธิ์เป็นเจ้าผู้ปกครองทวีป
◦ สงครามอวกาศ: ปีค.ศ. 3000 อาณานิคมดาวอังคารประกาศเป็นศัตรูกับสหพันธ์โลก ทำสงครามกันมาข้ามศตวรรษ
◦ ป่าดงดิบ: อารยธรรมอันรุ่งเรืองของชนเผ่าโบราณได้ล่มสลายมานับหมื่นปี โดยทิ้งความลับบางอย่างที่กุมชะตาโลกไว้



3 สร้างรายการตัวละครขึ้นมา ทั้งตัวเอกและตัวรอง ตั้งชื่อ เพศ อายุ พื้นเพชีวิต ความสัมพันธ์ อาชีพ และบทบาทภายในเรื่อง


4 วางโครงสร้าง ภูมิประเทศ เมือง ชีวิตความเป็นอยู่ ความเชื่อในลัทธิศาสนา หรืออะไรก็ตามที่เข้ากับธีมและตัวละครที่เราออกแบบขึ้นมา และต้องยืนพื้นกับหลักความเป็นเหตุและผลให้มากที่สุด


5 ลงรายละเอียดปลีกย่อย ให้มากขึ้นกว่าเดิมในเรื่องของขนาด ปริมาณ ตำแหน่งที่ตั้ง ทิวทัศน์ ลักษณะ อายุ ฯลฯ ตรงนี้เราอาจจะต้องวาดภาพโยงเส้นเป็น Mindmap ด้วย จะได้ไม่สับสนว่าเราคิดอะไรไปบ้าง


6 วางพล็อตการดำรงชีวิตของตัวละคร อาทิ
◦ สกุลเงินที่ใช้แลกซื้อสิ่งของ อาหารที่กิน เสื้อผ้าที่ใส่ อาวุธหรือสิ่งของที่ใช้ สัตว์ที่เลี้ยง เฟอร์นิเจอร์
◦ ขนส่งและการเดินทาง
◦ ความสำคัญของสิ่งของ ผู้ที่เป็นเจ้าของ และเงื่อนไขการได้สิ่งของนั้น(ซื้อ แลก ขโมย บังเอิญตกเขาแล้วพบเข้า ฯลฯ)
◦ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น
◦ ฯลฯ
หากรู้สึกว่ายังไม่รู้จักตัวละครของตัวเองดีพอ พี่แบงค์ขอแนะนำให้ลองทำแบบทดสอบจิตวิทยา RISB สำหรับตัวละคร จะช่วยให้เราเข้าใจตัวละครมากยิ่งขึ้น




สิ่งหนึ่งที่นักเขียนทุกคน ควรให้ความสำคัญอีกอย่างหนึ่งไม่แพ้กันก็คือ ถึงแม้นิยายของเราจะเป็นแฟนตาซี แต่แฟนตาซีต้องอิงกับความเป็นเหตุและผลเสมอ ถ้าผู้เขียนอยากให้เพลิงลุกใต้น้ำได้ ก็ต้องมีเหตุผลที่ดูน่าเชื่อหรือยอมรับได้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น คนต่างแดนต่างอารยธรรมทำไมถึงพูดภาษาเดียวกันรู้เรื่อง ตรงนี้ถ้ามีเหตุผลเพิ่มขึ้นมาสักหน่อย ผู้อ่านก็จะเชื่อถือนิยายของคุณมากยิ่งขึ้น และอินกับนิยายเรื่องนั้น

เรียบเรียงใหม่จาก:Dek-d


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2012-11-07 22:50:53


สวัสดี...มีแมวมั้ย?

ลงข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้
เข้าสู่ระบบสมัครสมาชิก



โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ