โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ
รวมเรื่องลึกลับ ตำนาน และความหลอน [เลิกอัพกระทู้นี้ถาวร]
เด็กซ่าบ้านแสบ
#121
เด็กซ่าบ้านแสบ
02-03-2012 - 23:15:44

#121 เด็กซ่าบ้านแสบ  [ 02-03-2012 - 23:15:44 ]








Nebula Eva
#122
02-03-2012 - 23:27:42

#122 Nebula Eva  [ 02-03-2012 - 23:27:42 ]





quote : เด็กซ่าบ้านแสบ



อะไรของนายก็แปะหลาอยู่เรปแรกว่านอกจากคอมเม้นแล้วห้ามดัน ยังจะมาใส่อีโมเล่นๆอีก-*-



เหมือนชีวิตจะยุ่งๆนะ
เด็กซ่าบ้านแสบ
#123
เด็กซ่าบ้านแสบ
02-03-2012 - 23:28:46

#123 เด็กซ่าบ้านแสบ  [ 02-03-2012 - 23:28:46 ]






quote : Nebula Eva

quote : เด็กซ่าบ้านแสบ



อะไรของนายก็แปะหลาอยู่เรปแรกว่านอกจากคอมเม้นแล้วห้ามดัน ยังจะมาใส่อีโมเล่นๆอีก-*-

อะไรหรอ แค่แวะมาอ่านแล้วก็คอมเม้นเฉยๆนะ


Nebula Eva
#124
02-03-2012 - 23:32:17

#124 Nebula Eva  [ 02-03-2012 - 23:32:17 ]





quote : เด็กซ่าบ้านแสบ

quote : Nebula Eva

quote : เด็กซ่าบ้านแสบ



อะไรของนายก็แปะหลาอยู่เรปแรกว่านอกจากคอมเม้นแล้วห้ามดัน ยังจะมาใส่อีโมเล่นๆอีก-*-

อะไรหรอ แค่แวะมาอ่านแล้วก็คอมเม้นเฉยๆนะ


เหรออออ อ่านเรื่องไหนล่ะ ถึงขำซะขนาดนี่^^



เหมือนชีวิตจะยุ่งๆนะ
เด็กซ่าบ้านแสบ
#125
เด็กซ่าบ้านแสบ
02-03-2012 - 23:40:35

#125 เด็กซ่าบ้านแสบ  [ 02-03-2012 - 23:40:35 ]






quote : Nebula Eva

quote : เด็กซ่าบ้านแสบ

quote : Nebula Eva

quote : เด็กซ่าบ้านแสบ



อะไรของนายก็แปะหลาอยู่เรปแรกว่านอกจากคอมเม้นแล้วห้ามดัน ยังจะมาใส่อีโมเล่นๆอีก-*-

อะไรหรอ แค่แวะมาอ่านแล้วก็คอมเม้นเฉยๆนะ


เหรออออ อ่านเรื่องไหนล่ะ ถึงขำซะขนาดนี่^^

แฟรงเกนสไตน์ รูปแรกมันตลกดี


Nebula Eva
#126
03-03-2012 - 14:42:21

#126 Nebula Eva  [ 03-03-2012 - 14:42:21 ]





quote :
วันนี้ขอเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับปรากฏการณ์ฝาแฝดอีกคนของมนุษย์ดีกว่า พอดีไปอ่านมาแล้วชอบเลยเอามาฝาก


ดอฟเพลแกงเกอร์ Doppelganger





      ดอพเพลแกงเกอร์ (เยอรมัน: doppelg?nger) เป็นความเชื่อ โดย doppel มีความหมายเดียวกับคำว่า double ในภาษาอังกฤษหรือแปลได้ว่า “ซ้ำสอง” ส่วนคำว่า g?nger หมายถึง “goer” มีคำเรียกอีกอย่างว่า evil twin (แฝดปีศาจ) หรือ bilocation (การปรากฏตนในสองสถานที่) ซึ่งมีที่มาจากเรื่องเล่าขานพื้นบ้านของเยอรมัน

      นิยามกว้าง ๆ ของดอพเพลแกงเกอร์ กล่าวถึงปรากฏการณ์ที่มีการพบเห็นบุคคลหนึ่งผู้ในเวลาเดียวกันแต่ต่างสถาน ที่ ศัพท์นี้ได้ถูกนำมาใช้มากที่สุดกับกรณีของฝาแฝดผู้ชั่วร้าย ซึ่งปรากฏให้เห็นโดยทั่วไปในวรรณกรรมและภาพยนตร์แนวลึกลับต่างๆ โดยทั่วไปแล้วดอพเพลแกงเกอร์ถูกถือเป็นสัญญาณแห่งความโชคร้าย ความเจ็บป่วยหรือภยันตรายจะเกิดขึ้นหากเพื่อนฝูงหรือเครือญาติได้พบเห็น ในขณะที่การพบเห็นดอพเพลแกงเกอร์ของตนจะนำมาซึ่งความตาย ถึงกระนั้น รายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ที่ว่านี้นั้น ไม่จำเป็นจะต้องเป็นไปในรูปแบบที่เฉพาะเจาะจงดังกล่าว เนื่องจากเรื่องราวและความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับคำนี้มีขอบเขตที่กว้างกว่า นั้นมาก

      ดอพเพลแกงเกอร์ เป็นคำที่ใช้เรียกกรณีที่มนุษย์คนหนึ่งได้ปรากฏตัวตนเพิ่มขึ้นมาจากเดิมอีก คนหนึ่ง ซึ่งจะมีลักษณะภายนอกเหมือนกันทุกประการ

      ตามเรื่องราวที่เล่าขานกันมาดอพเพลแกง เกอร์นั้นจะไม่มีเงาของตัวเอง รวมทั้งไม่มีภาพสะท้อนบนกระจกหรือผิวน้ำ มันอาจจะให้คำแนะนำอะไรบางอย่างกับบุคคลต้นแบบของมันด้วยเจตนาร้าย ซึ่งยุแยงให้เกิดความเข้าใจผิดต่าง ๆ หรืออาจจะปรากฏตัวต่อหน้าญาติมิตรเพื่อทำให้เกิดความสับสน และมันอาจจะปรากฏตัวในลักษณะที่สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ยามที่บุคคลต้นแบบของ มันเจ็บไข้ได้ป่วย

      ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าปรากฏการณ์ดอพเพล แกงเกอร์นั้นเกิดขึ้นด้วยสาเหตุใด ความเชื่อบางประเภทนั้นยึดหลักที่ว่า มนุษย์ทุกคนบนโลกจะมีฝาแฝดของตนอยู่ หากบุคคลนั้นเป็นคนดี ฝาแฝดก็จะชั่วร้าย หากบุคคลนั้นเป็นคนชั่วร้าย ฝาแฝดก็จะเป็นไปในทางกลับกัน และการที่ฝาแฝดทั้งสองมาพบกันนั้นก็จะยังผลให้ทั้งคู่ต้องพบกับจุดจบของ ชีวิต บ้างก็เชื่อว่าดอพเพลแกงเกอร์เป็นภูตผีปีศาจในรูปแบบหนึ่งที่จะปรากฏตัวขึ้น เพื่อบ่งบอกถึงลางร้าย หากพวกมันไม่ได้ นำพามาซึ่งลางร้ายเสียเอง นอกเหนือไปจากนี้แล้ว บุคคลบางกลุ่มมีความเห็นเกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่ว่านี้ว่า น่าจะเป็นรูปแบบหนึ่งของการใช้พลังจิตที่มีชื่อเรียกว่า “Out-of-Body Experience” หรือ “Astral Projection” ในกรณีนี้ มีการกล่าวอ้างว่ามีหลายคนพบเห็นพราหมณ์บางคนหลายสถานที่ในเวลาเดียวกัน ทั้ง ๆ ที่พราหมณ์ผู้นั้นกำลังนอนอยู่

      บางความเชื่อก็ว่าดอพเพลแกงเกอร์นั้นจะยืน อยู่หลังเจ้าของตลอดเวลา มีความว่องไวในการหลบหลีกสูงจนแม้หากหันหน้าเร็วยังไงก็ไม่ทันมัน นอกจากนี้มันยังเลียนแบบทำทุกอย่างตามเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงสีหน้า การเลียนเสียงซึ่งมันจะพูดออกมาพร้อมกับเจ้าของเอง เสียงของมันคล้ายกับเจ้าของจนดูดกลืนเข้าไปด้วยกัน

      ชาวต่างชาติบางกลุ่มเชื่อว่าดอพเพลแกง เกอร์ คือสิ่งที่ธรรมชาติสร้างมาเพื่อคอยช่วยเหลือมนุษย์เราไม่ให้รู้สึกโดดเดี่ยว จนเกินไป เพราะมันจะรับฟังสิ่งที่เราพูดทุกอย่าง แม้แต่สิ่งที่ผู้อื่นไม่อยากฟัง และตอบคำถามที่ใคร ๆ ไม่สนใจจะตอบโดยการสร้างรอยพิมพ์คำตอบเหล่านั้นขึ้นมาในจิตใต้สำนึกของเรา ในบางครั้งก็ช่วยเหลือเราด้วย เช่น เมื่อถึงคราวคับขัน เรามักจะรอดตายอย่างหวุดหวิดแบบฉิวเฉียด ทั้งที่รู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม นั่นเป็นเพราะเจ้าดอพเพลแกงเกอร์ พุ่งออกมาเร็วกว่าและหยุดยั้งเราเอาไว้ได้

      สุนัขและแมว สามารถเห็นเงาดอพเพลแกงเกอร์ของเราได้ ด้วยเหตุนี้แมวจึงมักจะมองข้ามไหล่ของเข้าของ ราวกับว่ามีใครหรืออะไรอยู่ตรงนั้น และบางทีสุนัขก็มักจะลุกขึ้นมาเห่าตามหลังเจ้าของตัวเอง นั่นก็เป็นเพราะมันเห็นสิ่งแปลกปลอมนั่นเอง สำหรับคนหนุ่มสาวแล้วเรื่องดอพเพลแกงเกอร์ อาจจะฟังดูไม่เข้าท่า แต่บางครั้งคนเฒ่าคนแก่ก็นั่งคุยคนเดียวได้เป็นตุเป็นตะได้ทั้งวัน เหมือนพวกเขากำลังคุยอยู่กับใครบางคน

      ข้างต้นดูเหมือนว่าดอพเพลแกงเกอร์ จะเป็นเพื่อนที่ดีของมนุษย์ แต่ก็มีความเชื่อหลายอย่างที่นับว่าน่ากลัวทีเดียว นั่นคือ หากดอพเพลแกงเกอร์ได้รับแรงกระทบจากความอาฆาตแค้นและความพยาบาทจากเจ้าของ มันจะทอดทิ้งร่างไปชั่วคราวเพื่อทำการแก้แค้นด้วยตัวของมันเอง เช่นก่อดคีเลวร้ายต่าง ๆ ในรูปลักษณ์ของเรา ทั้งที่เราก็อยู่เฉย ๆ และอาจจะแย่ยิ่งกว่านั้น หากมันไม่ไปก่อเรื่องด้วยตัวเอง แต่กลับยืมมือเจ้าของมาทำเสียเอง โดยบังคับให้เราคิด หรือทำ อย่างที่มันต้องการ โดยผิดวิสัยความเป็นตัวเราอย่างสิ้นเชิง…

      สรุป ดอพเพลแกงเกอร์ คือ ความเชื่อที่ว่า คนเรามีเงา หรือ ตัวตน ของเราในอีกรูปแบบหนึ่งที่หน้าตาเหมือนกัน แต่อาจมีนิสัยที่ตรงข้ามกัน อาจปรากฏตัวตามที่ต่าง ๆ พร้อม ๆ กับเรา และทำพฤติกรรมต่าง ๆ ในนามของเรา บ้างก็เชื่อว่าเป็นผู้คอยช่วยเหลือเจ้าของร่าง บ้างก็เชื่อว่าเป็นลางบอกเหตุร้าย แต่โดยทั่วไปเชื่อว่า หากดอพเพลแกงเกอร์ของบุคคลใด ๆ ถูกพบเห็น จะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นกับบุคคลนั้นถึงขั้นเสียชีวิตเลยทีเดียว

ตัวอย่าง ปรากฏการณ์ดอพเพลแกงเกอร์จากทั่วโลก

      หญิงสาวชาวโปรตุเกสคนหนึ่งเล่าว่า ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนที่เธอกำลังขนของย้ายบ้าน เธอได้เห็นพี่ชายของเธอมาช่วยขนของ ซึ่งในเวลานั้นพี่ชายของเธอไปรบ จึงน่าจะอยู่ที่สนามรบ หลังจากที่ขนของย้ายบ้านเสร็จ พี่ชายของเธอก็หายตัวไป และหลังจากนั้นไม่นาน ก็มีนายทหารมาแจ้งข่าวให้เธอทราบว่า พี่ชายของเธอได้เสียชีวิตในสนามรบเสียแล้ว

      ที่ประเทศญี่ปุ่น ขณะที่ชายคนหนึ่งกำลังวิ่งออกกำลังกายในตอนเช้า เขาได้เห็นตัวเองในสวนสาธารณะ ซึ่งเขาคิดว่าคงเป็นคนที่หน้าตาเหมือนกัน จึงไม่ได้ใส่ใจเท่าใดนัก และในตอนเย็นวันเดียวกันนั้นเอง เขาได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างรุนแรง แต่เขารอดชีวิตมาได้ ถึงกระนั้นก็ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเวลาหลายเดือนทีเดียว

      ชายอีกคนหนึ่งกล่าวว่า ขณะที่เขาเที่ยวอยู่ที่ตุรกี เขาได้เห็นเพื่อนของเขาเดินเข้าไปในโบสถ์ที่เคยมาเที่ยวด้วยกัน ทั้ง ๆ ที่เพื่อนของเขานอนป่วยและรักษาตัวอยู่ที่ประเทศเยอรมัน

ว่ากันว่า คนที่ได้เห็น ดอพเพลแกงเกอร์ของตนเอง ร่างกายจะค่อย ๆ ทรุดโทรมลงและพบกับความตายภายใน 1 ปี...

เครดิต : http://board.postjung.com/m/580708.html


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2012-03-03 14:42:37


เหมือนชีวิตจะยุ่งๆนะ
ponza1144
#127
03-03-2012 - 14:47:12

#127 ponza1144  [ 03-03-2012 - 14:47:12 ]





เย้มากแล้ว



นานๆครั้งเข้ามาเว็ปที ชอบกินเนื้อมากกว่าผักอะผิดเร...
Nebula Eva
#128
03-03-2012 - 14:51:15

#128 Nebula Eva  [ 03-03-2012 - 14:51:15 ]





quote : ponza1144

เย้มากแล้ว


มาไวมาก



เหมือนชีวิตจะยุ่งๆนะ
green
#129
03-03-2012 - 22:07:39

#129 green  [ 03-03-2012 - 22:07:39 ]






เด็กซ่าบ้านแสบ
#130
เด็กซ่าบ้านแสบ
03-03-2012 - 22:10:12

#130 เด็กซ่าบ้านแสบ  [ 03-03-2012 - 22:10:12 ]






อ้าก!!!! หลอนอ่า น่ากลัว ชะมัด แบบนี้อัพแบบ ชั่วโมงนึงทีเลยดีกว่า


Nebula Eva
#131
03-03-2012 - 22:14:19

#131 Nebula Eva  [ 03-03-2012 - 22:14:19 ]





quote : เด็กซ่าบ้านแสบ

อ้าก!!!! หลอนอ่า น่ากลัว ชะมัด แบบนี้อัพแบบ ชั่วโมงนึงทีเลยดีกว่า


อยากทำแบบนั้นเหมือนกันแต่กลัวคนมาอ่านไม่ทันเลยลงวันละเรื่องก่อน เดี๋ยวช่วงปิดเทอมอาจจะเพิ่มเป็นวันละสองเรื่องแทน



เหมือนชีวิตจะยุ่งๆนะ
Pepopammy
#132
03-03-2012 - 22:27:59

#132 Pepopammy  [ 03-03-2012 - 22:27:59 ]




หนูชอบเรื่องลึกลับนะ เดี๋ยวนี้มันก็น่ากลัวอ่า แง้
ผีญี่ปุ่นไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไหร่ เพราะผีคงไม่นั่งเครื่องบินมาหลอกหนูนะ



ただいま!
เด็กซ่าบ้านแสบ
#133
เด็กซ่าบ้านแสบ
03-03-2012 - 22:29:40

#133 เด็กซ่าบ้านแสบ  [ 03-03-2012 - 22:29:40 ]






quote : Nebula Eva

quote : เด็กซ่าบ้านแสบ

อ้าก!!!! หลอนอ่า น่ากลัว ชะมัด แบบนี้อัพแบบ ชั่วโมงนึงทีเลยดีกว่า


อยากทำแบบนั้นเหมือนกันแต่กลัวคนมาอ่านไม่ทันเลยลงวันละเรื่องก่อน เดี๋ยวช่วงปิดเทอมอาจจะเพิ่มเป็นวันละสองเรื่องแทน



Nebula Eva
#134
03-03-2012 - 22:42:57

#134 Nebula Eva  [ 03-03-2012 - 22:42:57 ]





quote : เด็กซ่าบ้านแสบ

quote : Nebula Eva

quote : เด็กซ่าบ้านแสบ

อ้าก!!!! หลอนอ่า น่ากลัว ชะมัด แบบนี้อัพแบบ ชั่วโมงนึงทีเลยดีกว่า


อยากทำแบบนั้นเหมือนกันแต่กลัวคนมาอ่านไม่ทันเลยลงวันละเรื่องก่อน เดี๋ยวช่วงปิดเทอมอาจจะเพิ่มเป็นวันละสองเรื่องแทน




ที่จริงว่าจะเอาผีไทยมาลง แต่พี่เบื่อผีไทยแล้วเลยไม่อยากลง(ส่วนใหญ่ผีไทยถ้าไม่เฮี้ยนเรื่องรัก เรื่องหวง ก็ต้องเป็นเรื่องแค้น) ผีนอกน่าสนใจกว่าเยอะ



เหมือนชีวิตจะยุ่งๆนะ
nanaavril
#135
03-03-2012 - 22:44:33

#135 nanaavril  [ 03-03-2012 - 22:44:33 ]






Doppelganger เป็น Boss ใน Geffen Dungeon F3 ซึ่ง drop มีดังนี้
- Oridecon (27%)
- Elunium (36.86%)
- Broad Sword [2] (2.2%)
- Zweihander (1.5%)
- Lance (5.5%)
- Spiky Band (3.5%)
- Full Plate [1] (2.5%)
- Doppelganger Card (0.01%)

---------------------------------------
ป.ล. หมายถึง Doppelganger ตัวเดียวกันไหมอ่ะ?



O_o
Nebula Eva
#136
03-03-2012 - 22:47:26

#136 Nebula Eva  [ 03-03-2012 - 22:47:26 ]





quote : nanaavril

Doppelganger เป็น Boss ใน Geffen Dungeon F3 ซึ่ง drop มีดังนี้
- Oridecon (27%)
- Elunium (36.86%)
- Broad Sword [2] (2.2%)
- Zweihander (1.5%)
- Lance (5.5%)
- Spiky Band (3.5%)
- Full Plate [1] (2.5%)
- Doppelganger Card (0.01%)

---------------------------------------
ป.ล. หมายถึง Doppelganger ตัวเดียวกันไหมอ่ะ?


มายูริ๊ ที่ว่ามามันคืออะไรเราไม่เก็ท



เหมือนชีวิตจะยุ่งๆนะ
nanaavril
#137
03-03-2012 - 22:50:35

#137 nanaavril  [ 03-03-2012 - 22:50:35 ]






quote : Nebula Eva

quote : nanaavril

Doppelganger เป็น Boss ใน Geffen Dungeon F3 ซึ่ง drop มีดังนี้
- Oridecon (27%)
- Elunium (36.86%)
- Broad Sword [2] (2.2%)
- Zweihander (1.5%)
- Lance (5.5%)
- Spiky Band (3.5%)
- Full Plate [1] (2.5%)
- Doppelganger Card (0.01%)

---------------------------------------
ป.ล. หมายถึง Doppelganger ตัวเดียวกันไหมอ่ะ?


มายูริ๊ ที่ว่ามามันคืออะไรเราไม่เก็ท


Doppelganger Boss ใน Ragnarok อ่ะนะ



O_o
Nebula Eva
#138
03-03-2012 - 22:53:07

#138 Nebula Eva  [ 03-03-2012 - 22:53:07 ]





quote : nanaavril

quote : Nebula Eva

quote : nanaavril

Doppelganger เป็น Boss ใน Geffen Dungeon F3 ซึ่ง drop มีดังนี้
- Oridecon (27%)
- Elunium (36.86%)
- Broad Sword [2] (2.2%)
- Zweihander (1.5%)
- Lance (5.5%)
- Spiky Band (3.5%)
- Full Plate [1] (2.5%)
- Doppelganger Card (0.01%)

---------------------------------------
ป.ล. หมายถึง Doppelganger ตัวเดียวกันไหมอ่ะ?


มายูริ๊ ที่ว่ามามันคืออะไรเราไม่เก็ท


Doppelganger Boss ใน Ragnarok อ่ะนะ


ว่าละ แต่ละชื่อคุ้นๆ



เหมือนชีวิตจะยุ่งๆนะ
otsuchio
#139
04-03-2012 - 03:45:45

#139 otsuchio  [ 04-03-2012 - 03:45:45 ]






แปะไว้ จะมาอ่านต่อ

ชอบมาก เยี่ยม!!



เข้ามาอีกทีรูปในละครซิมหายเกลี้ยง
Nebula Eva
#140
04-03-2012 - 15:57:57

#140 Nebula Eva  [ 04-03-2012 - 15:57:57 ]





quote :
เมื่อเช้าไปรื้อๆการ์ตูนเรื่องแขนกลคนแปรธาตุจากในห้องน้ามา วันนี้เลยปิ๊งไอเดียว่าวันนี้ลงเกี่ยวกับเรื่องนี้แหละ อาจไม่ค่อยเกี่ยวกับหัวกระทู้เท่าไร แต่อยากให้อ่านกัน


การเล่นแร่แปรธาตุ / Alchemy


      แรกนี้ ก็ขอเปิดตัว เล่นแร่แปรธาตุ ในเรื่องแขนกลคนแปรธาตุเวลาจะใช้วิชานี้จะต้องวาดวงแหวนเวทย์ละรายเวทย์ก่อนและจะทำการเปลี่ยนโลหะเป็นชนิดโลหะหรืออาวุธอื่น

      ความจริงแล้ววิชาเล่นแร่แปรธาตุคืออะไรกันแน่ ?
      หลายคนอาจจะคิดว่า การเล่นแร่แปรธาตุ เป็นสิ่งที่เหลวไหล เป็นไปไม่ได้ ฟังดูก็ไม่ค่อยจะ วิทยาศาสตร์เท่าไรนัก แต่เชื่อหรือไม่ว่า เพราะความพยายาม ที่จะเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของธาตุนี่แหละ ที่ทำให้เราสามารถค้นพบ สาร (materials) ชนิดใหม่ๆ ที่มีคุณสมบัติ แปลกๆ น่าสนใจ แตกต่างกันออกไปขึ้นมาได้
      วิชาเริ่มมาจากนักปรัชญากรีกชื่อดังอย่าง อริสโตเติล (Aristotle) มองสสารบนโลก ในรูปของ ดิน (earth) น้ำ (water) ลม (air) และ ไฟ (fire) ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ ถูกสร้างมาจาก การรวมตัวของธาตุทั้งสี่นี้ ตัวอย่างเช่น กระดูก ประกอบด้วย ไฟ 3 ส่วน และ ดิน 4 ส่วน
      ความเชื่อนี้เกิดมาจาก นักมายากล ชื่อ เอ็มพิดอเคิลส์ (Empedocles) เมื่อกว่า 2000 ปีที่แล้ว เอ็มพิดอเคิลส์ เชื่อว่า โลกเกิดจาก ธาตุทั้งสี่ชนิดนี้รวมตัวกันด้วยความรัก แต่แล้วก็เกิดทะเลาะวิวาทกัน จึงแบ่งแยกไปเป็น ท้องฟ้า (sky) กับ ดวงอาทิตย์ (sun) และ โลก (earth) กับ มหาสมุทร (oceans) เอ็มพิดอเคิลส์ ยังเชื่ออีกว่า ในที่สุด ความรัก จะสามารถรวบรวมธาตุทั้งหมดเข้าด้วยกัน อีกครั้งหนึ่ง (เหมือนนิยายน้ำเน่าหน่อยๆ เลยเนอะ)

      แล้วเมื่อเข้าสู่ยุคของไอแซก นิวตัน (รวมถึงไอแซกนิวตัน เอง) ความเชื่อนี้ได้พัฒนาจากความคิดเป็นศาสตร์ของการเปลี่ยนธาตุราคาถูก เช่น ตะกั่วให้เป็นธาตุราคาแพง คือ ทอง เป็นศาสตร์ที่แพร่หลายและรู้จัก ที่เรียกว่าเป็น อัลเคมี ( Alchemistry) ซึ่งมักเรียกว่าเป็น ศาสตร์ของการเล่นแร่แปรธาตุ
      นักอัลเคมีในอดีต แข่งขันในการหาวิธีเปลี่ยนธาตุ คือ ตะกั่ว ให้เป็นทองคำ โดยแข่งขันหาของวิเศษ ที่ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนธาตุ ได้คือ " หินนักปราชญ์ " และเมื่อเวลานานเข้าเรื่องของการเล่นแร่แปรธาตุโดยอัลเคมี ได้เสื่อมสลายไปกับการเริ่มต้น ของยุคเคมีใหม่ กับนักเคมีดัง เช่น ลาวัวซิเอ (Lavoisier ) เมื่อสองร้อยปีเศษในอดีต

      อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงยุคของวิทยาศาสตร์แห่งศตวรรษที่ 20 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน จริง ๆ แล้ว สิ่งนี้นัก อัลเคมี พยายามทำกัน ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้จริง อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ นั่นคือ นักวิทยาศาสตร์ยุคใหม่สามารถเปลี่ยนธาตุจากธาตุหนึงไปเป็นอีกธาตุหนึ่งได้ เพราะธาตุ ทุกชนิด ล้วนมีองค์ประกอบพื้นฐานเหมือนกัน คือ โปรตรอน นิวตรอน และ อิเล็กตรอน ความแตกต่างของชื่อธาตุต่าง ๆ ก็ขึ้นอย่างกับจำนวนของ โปรตรอน เท่านั้นเป็นหลัก นักวิทยาศาสตร์ในยุคปัจจุบัน ก็สามารถ ทำหน้าที่เป็น นักอัลเคมียุคใหม่ ได้ โดยวิธีทางนิวเคลียร์ ทำให้เกิดปฏิกริยานิวเคลียร์ เปลี่ยนธาตุหนึ่งไปเป็นอีกธาตุหนึ่งได้ แล้วนักอัลเคมียุคใหม่ เปลี่ยนตะกั่วเป็นทองคำได้หรือไม่ คำตอบคือไม่คุ้ม เพราะค่าใช้จ่ายในการลงทุน เปลี่ยนธาตุ ตะกั่วเป็นทองคำจะสูงกว่าราคาทองคำ ที่ถูกสร้างขึ้นมามาก
      อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์
      อะตอมที่รวมกันเป็นวัตถุนั้น ประกอบด้วยตัวที่ว่างเป็นส่วนใหญ่ แม้แต่ตัวเราเองก็ประกอบด้วยช่องว่างเป็นส่วนใหญ่เช่นกัน แต่ทำไมเราเดินทะลุประตูที่ปิดอยู่ไม่ได้ หรืออีกนัยหนึ่ง อะไรทำให้สะสารคุมกันอยู่ได้

อะตอมได้ปะทะกันเป็นล้าน ๆ ครั้งทุก ๆ วินาที หากในเชิงกลศาสตร์ มันยิ่งกลับคงตัวอยู่ได้

อะตอมตามการอธิบายแบบดาวเคราะห์ ตามกฏกลศาสตร์ดั้งเดิม เมื่อชนกันแล้วจะไม่คงสภาพอยู่ได้ อะตอมของออกซิเจนจะจัดเรียงตัวของอิเล็กตรอนได้เสมอ ไม่ว่าจะปนกับอะตอมอื่นมากี่ครั้งแรงซึ่งยึดเหนี่ยวสิ่งต่าง ๆ เข้าด้วยกันนี้เอง ทำให้เป็นช่องว่างที่ผ่านไม่ได้เมื่อแรงยึดเหนี่ยวระหว่างองค์ประกอบเหล่านั้นสูงมาก ทำให้เกิดเป็นช่องว่างที่ผ่านไม่ได้ แต่ถ้ามีความเร็วที่สุดกว่าเกิดขึ้น จะผ่านได้หรือไม่ กับการเรียงตัวของอะตอมในผลึกต่าง ๆ ถ้าแรงยึดเหนี่ยวถูกจัดให้เปลี่ยนไป ผลึกเหล่านั้นจะเปลี่ยนหรือไม่ สรุปก็คือ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า ไม่มีอะไรที่จะผ่านช่องว่างนั้นไปได้ เพราะวัตถุมีการปะทะกันของอตอมนับล้าน ๆ ครั้งในแต่ละวินาที ....แต่..... ถ้ามีความเร็วกว่านั้นที่จะผ่านไปได้ และสามารถเปลี่ยนรูปผลึกใหม่ได้ล่ะ?
      มนุษย์เชื่อเรื่องทุกเรื่องที่วิทยาศาสตร์บอก แต่มนุษย์ไม่ยอมเชื่อพระพุทธเจ้า ทั้ง ๆ ที่ท่านรับสั่งไว้แล้วว่า อย่าเชื่อโดยไม่พิสูจน์ มนุษย์ไม่พิสูจน์แล้วก็ไม่เชื่อ

การเล่นแร่แปรธาตุตามความเชื่อต่างๆ

      เป็นหนึ่งในหลายสาขาของเวทมนต์ซึ่งเริ่มมีขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 23 สมัย โรซีครูเชียน (Rosicrucian :โรซีครูเชียนคือ กลุ่มคนชาวอียิปต์ที่อ้างว่าาเข้าใจพลังอำนาจของเอกภพ) พลังลึกลับที่เปลี่ยนเหล็กธรรมดาให้เป็นทองได้ยังรวมไปถึงการทำยาอายุวัฒนะ หรือที่คนจีนเรียกว่า ตัน---Tan ซึ่งกินแล้วช่วยให้เป็นหนุ่มสาวตลอดกาล อายุยืนหมื่นปี หรือเป็นอมตะและการสร้าง มนุษย์สังเคราะห์ในหลอดแก้ว โฮมูนคูลัส---Homunculus ด้วย

      ว่ากันว่า ศาสตร์แขนงนี้ได้รับการสั่งสอนถ่ายทอดมาจาก เทพเจ้าอียิปต์ ที่มีนามว่า ธอธ---Thoth ซึ่งเป็นเทพผู้สร้างวิทยาศาสตร์ ชาว กรีก กับชาว โรมัน เรียกเทพองค์เดียวกันนี้ว่า เฮอร์เมส---Hermes ถือกันว่าเป็นเทพประจำอาชีพหลายอาชีพ
แม้กรรมวิธีจะยุ่งยากและสับสน ความพยายามที่จะเข้าใจรายละเอียดในกระบวนการของมันก็ไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย การค้นคว้าหาสูตรที่จะเปลี่ยนแร่ธาตุต่าง ๆ ให้กลายเป็นทองนั้นอาจถูกมองว่า เป็นเพราะความโลภมากกว่าความต้องการที่จะค้น


      ภาพของ นักรสายนเวท ในวรรณคดีและศิลปะ คือ นักวิทยาศาสตร์ยุคต้น ๆที่นั่งอยู่หน้าเตาไฟที่ร้อนระอุ พยายามทุกวิถีทางที่จะหลอมแร่ธาตุและแปรให้เป็นทอง โดยแท้จริงแล้ว ความตั้งใจจริงของ รสายนเวท ไม่ได้เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ทางเคมีใด ๆแต่เป็นความต้องการจะค้นหาสัจธรรมและความบริสุทธิ์ของมนุษย์ซึ่งประกอบด้วย ปรัชญา ศีลธรรม และจิตวิญญาณ นักรสายนเวท ไม่ได้ต้องการค้นหาเวทมนต์ใด ๆ แต่ต้องการค้นหาคำตอบของเอกภพ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากและลึกลับสำหรับมนุษย์ 0รสายนเวท มีความเกี่ยวพันกับทอง


      เนื่องจากทองเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ มีความทนทานต่อปฎิกิริยาต่าง ๆซึ่งทำให้ ทองไม่หมองคล้ำและไม่ถูกกัดกร่อน นอกจากคุณสมบัติเฉพาะตัวแล้ว ทอง ยังเป็นอุปมาของความงาม ความบริสุทธิ์ และความอดทน ทอง จึงเป็นตัวแทนของสิ่งที่ นักรสายนเวท ค้นหา สิ่งใดที่ทำให้แร่ธาตุเปลี่ยนสภาพเป็นทองได้เร็วเท่าไรก็จะมีอำนาจต่อมนุษย์มากตามไปด้วยพิธีกรรมที่ประกอบขึ้นเป็นเพียงการแสดงประกอบการค้นหาสัจธรรมโดยใช้ ทอง เป็นตัวแทน

ประวัติ


      นักรสายนเวท มีมากว่า 2,000 ปี ในแถบตะวันตก ตะวันออก และแถบประเทศอาหรับ ถือว่าเป็นความเชื่อและพิธีกรรมที่มีอายุยาวนานที่สุด อาจจะเป็นเพราะว่า วัตถุที่นำมาประกอบพิธีคือ ทอง นั้น เป็นที่หมายปองของมนุษย์ทุกสมัยความไม่ซื่อสัตย์และการหลอกลวงย่อมมีขึ้นแน่นอน แต่จุดมุ่งหมายหลักของ รสายนเวท ก็ยังคงอยู่ที่ความสมบูรณ์เป็นเลิศที่แทนด้วยวัตถุที่เป็นเลิศอย่างทองและหมายถึง จิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ผุดผ่องของมนุษย์รสายนเวท นี้มีขึ้นก่อนคริสตกาลทั้งใน จีน และ ยุโรปตะวันออก เริ่มต้นเมื่อประเพณีของ อียิปต์ และ กรีก ถูกนำมารวมกันเพื่อค้นหากุญแจสู่เอกภพ ต่อมา 500 ปีรสายนเวท ใน ยุโรป ก็เสื่อมลงแต่กลับไปเจริญในแถบ อาหรับ และ ตะวันออก แทน กลับมารุ่งเรืองอีกครั้งในยุโรป ในพุทธศตวรรษที่ 17 ซึ่งได้รับการพัฒนาขึ้นกว่าเดิม จนการศึกษาค้นคว้าแตกแขนงออกไปเป็นศาสตร์หลายแขนง เช่น ปรัชญา วิทยาศาสตร์ การแพทย์ไสยศาสตร์ โหราศาสตร์ และคณิตศาสตร์ เป็นต้น นักรสายนเวท แต่ละคนต่างต่างสมัย ต่างก็มีวิธีของตนที่จะค้นคว้าหาคำตอบของตนเอง จึงทำให้ไม่มีวิธีที่ซ้ำกันเลย แม้จะมีความแตกต่างในกลวิธี ใจความสำคัญ 3 ประการ ก็ยังคงเหมือนกัน
ประการแรก เน้นการศึกษาในวัตถุแร่ ศึกษาในรูปธรรมของวัตถุในห้องทดลอง และการทดลอง
ประการที่ 2 คือ ความเข้าใจในความสำคัญของการบำบัดรักษาโดยใช้สมุนไพรและสารเคมีต่าง ๆ ให้เป็นยาที่มีประโยชน์ใช้รักษาได้
ประการที่ 3 เกี่ยวข้องกับปรัชญาและความลึกลับของมนุษย์ค้นหาแสงสว่างแห่งสัจธรรมเกี่ยวกับชีวิตและหน้าที่ของมนุษย์ต่อเอกภาพ ทุกสาขาของ รสายนเวท จะประกอบด้วยใจความสำคัญทั้ง 3 นี้ จะต่างกันก็ตรงที่การเน้นความสำคัญของแต่ละใจความ

ส่วนของไทยนั้น
       คนไทยแต่โบราณศึกษาปฏิบัติกันมานานแล้ว แต่มีครูบาอาจารย์และผู้เรียนกันได้จริงๆน้อยมาก เท่าที่ทราบกันมา เล่าว่า มีลูกศิษย์สายหลวงปู่เทพโลกอุดรนี่แหละ ที่เก่งจริงๆ เช่น หลวงปู่ละมัย เพชรบูรณ์ เป็นต้น ที่สามารถเรียนสำเร็จวิชาปรอทได้ (อย่างอื่นก็คงทำได้เช่นกัน)ทำปรอทจากของเหลวมาเป็นของแข็งได้ ทำปิรามิดปรอทออกให้บูชาได้ องค์ละเป็นหมื่นๆบาท ศิษย์สายธรรมกายไปบูชามาเป็นครั้งละเป็นร้อยๆองค์ คนไทยโบราณสมัยก่อนทำทองคำได้เอง นำมาหล่อพระ สร้างพระใหญ่โตมากมาย ตอนเป็นเมืองขึ้นประเทศอื่นๆ ก็ต้องทำทองคำนี่แหละส่งส่วยเขาปีละจำนวนมากๆด้วย จะให้ไปขุดจากไหนจึงจะหามาให้เขาพอและทันได้ ก็ต้องใช้วิชาความรู้พิเศาแบบนี้แหละ คนไทย เมืองไทยจึงเอาตัวรอดมาได้จนทุกวันนี้....หลวงพ่อฤาษี ก็ยืนยันว่ามีจริง และท่านเคยบอกสูตรทำทองคำไว้ให้ด้วย ในหนังสือเรื่องอ่านเล่นของท่าน ลองไปหาอ่านกันดูซิ เผื่อจะรวยกับเขาบ้าง....

เครดิต : http://www.konrakmeed.com/


แก้ไขล่าสุดเมื่อ 2012-03-04 15:59:09


เหมือนชีวิตจะยุ่งๆนะ

ลงข้อความได้เฉพาะสมาชิก
ต้องสมัครเป็นสมาชิกและ login เข้าสู่ระบบก่อนถึงจะสามารถลงความเห็นได้
เข้าสู่ระบบสมัครสมาชิก



โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายส่วนบุคคนก่อนเริ่มใช้งาน [นโยบายส่วนบุคคล]
ยอมรับ